Transitional Care

ดูแลผู้ป่วยระยะเปลี่ยนผ่าน (Transitional Care) ที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ

            การดูแลผู้สูงอายุในระยะเปลี่ยนผ่าน (Transitional Care) เป็นกระบวนการที่สำคัญในการช่วยให้ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลหรือการผ่าตัดฟื้นตัวได้อย่างปลอดภัย และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวหรืออาการเจ็บป่วยเรื้อรัง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง, โรคพาร์กินสัน, ผู้ที่เจ็บป่วยเรื้อรัง หรือผู้ที่ติดเตียงและต้องการการดูแลพิเศษอย่างต่อเนื่อง เช่น การให้อาหารทางสาย, การเจาะคอ หรือการให้ออกซิเจน 

ความสำคัญของ Transitional Care ในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ

            1.การฟื้นฟูและการดูแลหลังผ่าตัด
                  ผู้สูงอายุที่ได้รับการผ่าตัดไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดกระดูก, ข้อ หรือการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับโรคต่างๆ จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูร่างกายอย่างต่อเนื่องหลังการรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงระยะเปลี่ยนผ่าน ผู้สูงอายุอาจมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น แผลกดทับ, การติดเชื้อ หรือการล้ม ดังนั้นการดูแลที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุจะเน้นการทำกายภาพบำบัด การปรับตัวในกิจกรรมประจำวัน และการเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด

            2.การดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองและโรคพาร์กินสัน
                  ผู้สูงอายุที่ประสบกับโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) หรือโรคพาร์กินสัน (Parkinson's Disease) มักจะต้องการการดูแลที่เป็นพิเศษในระยะเปลี่ยนผ่าน โดยเฉพาะการฟื้นฟูสมรรถภาพทางกายและการพูด ในกรณีของโรคหลอดเลือดสมอง การฟื้นฟูการเคลื่อนไหวและการพูดถือเป็นเป้าหมายหลัก ขณะที่โรคพาร์กินสันจะมีการดูแลเน้นไปที่การจัดการกับการเคลื่อนไหวและการควบคุมกล้ามเนื้อ

            3.การดูแลผู้ป่วยติดเตียงและต้องให้อาหารทางสายหรือเจาะคอ
                  ผู้สูงอายุบางรายอาจติดเตียงหรือมีภาวะไม่สามารถรับประทานอาหารได้ด้วยตนเอง ซึ่งต้องได้รับการดูแลพิเศษ เช่น การให้อาหารทางสาย (Enteral Feeding) หรือการเจาะคอ (Tracheostomy) เพื่อให้อาหารหรือสารน้ำเข้าสู่ร่างกายได้อย่างเหมาะสม การดูแลอย่างใกล้ชิดในการตรวจสอบการให้อาหารทางสายหรือการดูแลแผลที่เจาะคอ เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อหรือการอุดตันของสายอาหาร

            4.การดูแลผู้ป่วยที่ต้องการการให้ออกซิเจน
                  ผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านการหายใจหรือระบบทางเดินหายใจอาจต้องใช้การให้ออกซิเจนในระยะยาว การดูแลผู้ป่วยในกรณีนี้จะต้องมีการติดตามระดับออกซิเจนในเลือดอย่างใกล้ชิด และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมในการให้ออกซิเจน เช่น เครื่องออกซิเจนแบบพกพาหรือเครื่องช่วยหายใจอย่างต่อเนื่อง การตรวจสอบความสะอาดของอุปกรณ์การให้ออกซิเจนและการป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

            5.การดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
                  ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, หรือโรคข้อเสื่อม จะต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องในระยะเปลี่ยนผ่าน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟู การให้การรักษาที่ตรงจุดและการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงและส่งเสริมการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว

            6.การสนับสนุนด้านโภชนาการ
                  การรับประทานอาหารที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการทางร่างกายเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังจากการเจ็บป่วยหรือการผ่าตัด โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้ เช่น ผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องให้อาหารทางสาย การดูแลด้านโภชนาการจะต้องมีความระมัดระวังเพื่อให้มั่นใจว่าอาหารที่ได้รับมีคุณค่าทางโภชนาการและช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้น

กระบวนการดูแลผู้ป่วยระยะเปลี่ยนผ่านในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ

            1.การประเมินสุขภาพเบื้องต้น
                เมื่อผู้ป่วยมาถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ขั้นตอนแรกคือการประเมินสภาพร่างกายและอาการของผู้ป่วย เพื่อระบุความเสี่ยงและความต้องการในการดูแลเฉพาะทาง เช่น ความสามารถในการเคลื่อนไหว, การหายใจ, หรืออาการที่เกี่ยวข้องกับโรคประจำตัว

            2.การจัดทำแผนการดูแลเฉพาะบุคคล
                จากการประเมินสุขภาพเบื้องต้น ศูนย์จะจัดทำแผนการดูแลที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุแต่ละราย โดยรวมถึงการฟื้นฟูร่างกาย การควบคุมโรคประจำตัว การเสริมสร้างสุขภาพจิตใจ และการดูแลทางโภชนาการ

            3.การทำกายภาพบำบัดและกิจกรรมเสริมสร้างร่างกาย
                การฟื้นฟูร่างกายหลังผ่าตัดหรือเจ็บป่วยจะมีการทำกายภาพบำบัดเป็นประจำ เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งการทำกิจกรรมเบาๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย เช่น การเดิน หรือการออกกำลังกายที่เหมาะสม

            4.การติดตามผลการรักษา
                การติดตามอาการและผลการรักษาเป็นส่วนสำคัญในระยะเปลี่ยนผ่าน เพื่อตรวจสอบว่าผู้ป่วยมีการฟื้นฟูหรือไม่ หากพบอาการผิดปกติจะสามารถปรับการรักษาหรือแผนการดูแลได้ทันท่วงที

            5.การให้คำปรึกษากับครอบครัว
                ครอบครัวของผู้สูงอายุมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการฟื้นฟูสุขภาพหลังการรักษา ดังนั้นการให้คำปรึกษาและการฝึกอบรมครอบครัวในการดูแลผู้สูงอายุที่บ้านจะช่วยให้การดูแลต่อเนื่องหลังจากกลับบ้านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

            การดูแลผู้ป่วยระยะเปลี่ยนผ่านที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเป็นกระบวนการที่ต้องการการประสานงานจากหลายฝ่าย เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ครบถ้วนทั้งด้านร่างกาย, จิตใจ, โภชนาการ และการฟื้นฟูหลังจากการเจ็บป่วยหรือผ่าตัด โดยมุ่งเน้นที่การฟื้นฟูสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ป้องกันภาวะแทรกซ้อน และเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในระยะยาว การดูแลที่มีคุณภาพในระยะเปลี่ยนผ่านนี้จะช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างอิสระและมีความสุข

            เดอะซีเนียร์เป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลผู้สูงอายุเดอะซีเนียร์ ทำให้เราเข้าใจดีในเรื่องการดูแลผู้ป่วยสูงอายุ และผู้สูงอายุที่ต้องการความใส่ใจการดูแลครอบคลุมทุกด้าน  ทั้งด้านการพยาบาล การฟื้นฟูร่างกาย  ด้านอาหารและโภชนาการ โดยทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ดูแล กายภาพบำบัดวิชาชีพและนักโภชนาการ

            The Senior Health Care โรงพยาบาลผู้สูงอายุ และศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู เราพร้อมดูแลผู้ป่วยที่มีภาวการณ์เจ็บป่วยเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็ง โรคไตระยะสุดท้าย โรคพาร์กินสัน ผู้ป่วยสมองเสื่อม หรือมีอาการอัลไซเมอร์ระยะสุดท้าย รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยระยะสุดท้าย ผู้ป่วยประคับประคอง  โดยทีมแพทย์ นักกายภาพบำบัด และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแล ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ และพร้อมให้คำแนะนำปรึกษาครอบครัวของผู้ป่วย ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งทางร่างกายและจิตใจ

สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของโรงพยาบาลเดอะซีเนียร์ได้ที่

โทร : 090-885-2985, 094-498-1115 

LINE OFFICIAL : @thesenior