ความสำคัญของการทำกายภาพบำบัดในผู้ป่วยและผู้สูงอายุ
การทำกายภาพบำบัดที่ดีควรมีลักษณะใด
ความไม่มีโรคถือเป็นพรอันประเสริฐ หลายคนอาจคิดว่าการเจ็บป่วยไม่ถือเป็นเรื่องร้ายแรงอะไรเพราะถ้าหากได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีก็สามารถหายขาดได้ แต่สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวหรือประสบอุบัติเหตุร้ายแรง การที่ต้องพักรักษาที่โรงพยาบาลเป็นระยะเวลานานไม่ใช่เรื่องสนุก โดยเฉพาะเมื่อร่างกายของเราไม่สามารถดำรงชีวิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเหมือนเก่าก็จะยิ่งเพิ่มความเครียดในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น สำหรับผู้ที่ไม่สามารถบังคับอวัยวะของร่างกายได้ตามที่ใจต้องการ หนึ่งในการดูแลของศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ก็คือการทำกายภาพบำบัด ถ้ายิ่งผู้ป่วยได้รับการทำกายภาพบำบัดจากผู้ที่เชี่ยวชาญที่มีอุปกรณ์ทางกายภาพครบครันก็จะยิ่งช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วยิ่งขึ้น
ลักษณะของการทำกายภาพบำบัด
การทำกายภาพบำบัดถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้อวัยวะของร่างกายได้ฟื้นฟูโดยการขยับตัว ซึ่งก็มีหลายวิธีด้วยกันทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ป่วยเองว่าควรได้รับการทำกายภาพบำบัดในลักษณะไหน โดยสามารถแบ่งลักษณะของการทำกายภาพบำบัดออกเป็นสามลักษณะด้วยกัน อันได้แก่ การทำกายภาพบำบัดด้วยมือ อาทิเช่น การนวดหรือการขยับข้อต่อของร่างกาย ,การทำกายภาพบำบัดด้วยการออกกำลังกาย อาทิเช่น การยืดคลายกล้ามเนื้อหรือการขยับร่างกายเบาๆ และการทำกายภาพบำบัดด้วยวิธีอื่น อาทิเช่น การใช้ไฟฟ้าช่วยกระตุ้น ,การบำบัดด้วยน้ำ ,การประคบร้อนหรือการประคบเย็น เป็นต้น ทั้งนี้ศูนย์ดูแลผู้ป่วยจะวิเคราะห์อาการของผู้ป่วยเบื้องต้นว่าจะเหมาะกับการทำกายภาพแบบใด เพราะถ้าหากผู้ป่วยได้รับการทำกายภาพบำบัดที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสมอาจส่งผลร้ายต่อร่างกายมากกว่าผลดีเป็นแน่
การทำกายภาพบำบัดเหมาะกับใครบ้าง ?
ถ้าหากพูดถึงการทำกายภาพบำบัดเชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือผู้ที่ประสบอุบัติเหตุมาเป็นอันดับแรกเป็นแน่ ซึ่งความเป็นจริงแล้วนอกจากผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือผู้ที่ประสบอุบัติเหตุรุนแรง การทำกายภาพยังเหมาะสำหรับ กลุ่มผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยอัมพฤกษ์-อัมพาต ผู้ป่วยพาร์กินสัน ผู้ป่วยกล้ามเนื้อลีบ ผู้ป่วยที่มีอาการปวดเรื้อรัง ทั้งปวดเข่า ปวดไหล่ หรือปวดหลัง ผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังหรือการอักเสบของเอ็น, ข้อต่อ และกล้ามเนื้อ และเน้นการพื้นฟูหลังการสูญเสียอวัยวะ ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจให้ดีขึ้นได้ แต่ควรได้รับการดูแลจากศูนย์ดูแลผู้ป่วยที่มืออาชีพเพื่อการรักษาที่ถูกวิธีและมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นก็ยังเหมาะกับผู้ป่วยทั่วๆ อีกหลายประเภท เราขอสรุปอย่างพอสังเขปสำหรับผู้ที่เหมาะกับการทำกายภาพบำบัด ดังต่อไปนี้
- ผู้ป่วยกระดูกหัก
- ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดกระดูก ,การเปลี่ยนข้อเข่า และข้อสะโพก
- ผู้ป่วยที่มีอาการปวดหรือการอักเสบของเอ็น ,ข้อต่อ และกล้ามเนื้อ
- ผู้ป่วยโรคข้อไหล่ติด
- ผู้ป่วยกระดูกสันหลังคัด
- ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อลีบ
- การฟื้นฟูหลังสูญเสียอวัยวะ
- ผู้ป่วยที่มีอาการปวดเรื้อรัง ทั้งปวดเข่า ,ปวดไหล่ หรือปวดหลัง
- ผู้ป่วยโรคมะเร็ง
- ผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน
- ผู้ที่เป็นรองช้ำ หรือผังผืดใต้เท้า
ความสำคัญของการทำกายภาพบำบัดในผู้ป่วยและผู้สูงอายุ
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นการทำกายภาพบำบัดนั้นเหมาะสมสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัยที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพหรือผู้ที่ประสบอุบัติเหตุจนทำให้ร่างกายไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเหมือนที่ผ่านมา ผู้ป่วยเหล่านี้จำเป็นต้องพักฟื้นร่างกายเพื่อให้อวัยวะได้ฟื้นฟูและกลับมาให้งานได้เต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง เพราะฉะนั้นเราจะมาพูดถึง ‘ความสำคัญของการทำกายภาพบำบัดในผู้ป่วยและผู้สูงอายุ’ จะมีอะไรบ้าง ไปอ่านพร้อมๆ กันเลย
- ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด : ผู้ป่วยหลังผ่าตัดมักจะพบกับอาการชาหรือปวดบริเวณอวัยวะที่ได้รับการผ่าตัดหรือบางครั้งก็อาจมีอาการบวมแดง การทำกายภาพบำบัดอย่างการประคบเย็นจะช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ หรือการเลือกทำกายภาพบำบัดโดยการกระตุ้นไฟฟ้าบริเวณรอบแผลๆ ก็จะสามารถช่วยลดอาการบวมแดงให้ดีขึ้นได้
- เพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย : สำหรับผู้ป่วยระยะพักฟื้นแน่นอนว่าร่างกายได้หยุดการเคลื่อนไหวมาสักระยะหนึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้ออาจไม่แข็งแรงเหมือนเก่า กาทำกายภาพบำบัดจะช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจสูบฉีดโลหิตได้ดีขึ้น เมื่อโลหิตไปหล่อเลี้ยงเพียงพอร่างกายก็จะกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง
- ช่วยเพิ่มองศาการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ : อาการข้อยึดมักจะถูกพบกับผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดส่งผลให้เกิดอาการปวดของกล้ามเนื้อ ในบางกรณีอาจส่งผลทำให้ข้อต่อต่างๆ งอได้ เช่น ข้อต่อเท้าหรือข้อต่อไหล่ การทำกายภาพบำบัดอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ผังผืดบริเวณส่วนกล้ามเนื้อหรือข้อต่อต่างๆ ได้มีการเคลื่อนไหว แนะนำให้ปรึกษาศูนย์ดูแลผู้ป่วยที่เชี่ยวชาญในเรื่องการทำกายภาพบำบัดโดยเฉพาะเพื่อช่วยสอนการเคลื่อนไหวอย่างถูกวิธี อีกทั้งยังช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย
- ฝึกการประสานระหว่างกล้ามเนื้อ : สำหรับผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุการหมั่นเดินจะส่งผลดีต่อร่างกายมากกว่าการนั่งๆ นอนๆ เพราะกล้ามเนื้อต้องการได้รับการขยับตัวเพื่อให้กล้ามเนื้อได้มีการหดและยืดหยุ่น เพราะฉะนั้นเราขอแนะนำให้ผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุอย่านั่งๆ นอนๆ ลุกขึ้นมาทำกายภาพเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง
เราเกิดมามีเพียงร่างกายเดียว ขนาดของเล่นเสียเรายังต้องซ่อมนับประสาอะไรกับร่างกาย หากเราหรือคนที่เรารักเจ็บป่วยก็ควรได้รับการรักษาและได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีโดยเฉพาะผู้สูงอายุ และหนึ่งในการดูแลและการบำบัดนั่นก็คือการทำกายภาพบำบัดนั่นเอง ซึ่งจะดีกว่าไหมถ้าหากเราหรือคนที่เรารักได้รับการทำกายภาพบำบัดอย่างถูกวิธีโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างศูนย์ดูแลผู้ป่วยมืออาชีพ
เดอะซีเนียร์ ด้วยประสบการณ์การดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยของ ดูแลผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง ของเดอะซีเนียร์ ที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 25 ปี ทำให้เราเข้าใจดีในเรื่องการดูแลผู้ป่วยสูงอายุ ดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง และผู้ป่วยพักฟื้นหลังจากการผ่าตัด ให้มีการฟื้นตัวอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุดังดล่าว และการพัฒนาที่ต่อเนื่อง จึงทำให้เราเป็นผู้เชี่ยวชาญในการดูแลผู้สูงอายุ ด้านการดูแล ด้านกิจกรรมบำบัด และฟื้นฟูหลังออกจากโรงพยาบาล
สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของโรงพยาบาลเดอะซีเนียร์ได้ที่
โทร : 090-885-2985, 094-498-1115, 02-001-4452
LINE OFFICIAL : @thesenior
Leave a Reply